ยิ่งลักษณ์ ซัด ประยุทธ์ พร้อมแสดงความเป็นห่วงชาวนา หลังจากที่ ราคาข้าว ลดต่ำลง กลัวราคาจะลดต่ำกว่าปีก่อน ซ้ำเติมชาวนา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาราคาข้าวที่ลดต่ำลง และแสดงความห่วงใยว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลง
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “แม้ประเทศไทยของเราได้ชื่อว่าในน้ำมีปลาในนามีข้าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเกษตรกรจะกินดีอยู่ดีค่ะ
ชาวนาเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่ราคารับซื้อกลับลดลงอย่างหนัก ขณะที่ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ข้าวเจ้านาปรังฤดูใหม่กำลังจะทะลักออกสู่ตลาดจำนวนมากมายหลายสิบล้านตัน แต่ราคาข้าวแทบทุกชนิดได้ร่วงลงไปก่อนหน้าแล้ว เช่น ข้าวเปลือกเจ้าแห้ง (ความชื้น15%) ราคาเหลือเพียงตันละ 7-8 พันบาท ดิฉันเป็นห่วงมากค่ะ ว่าราคาข้าวปีนี้จะตกตํ่ามากกว่าปีก่อน ซ้ำเติมชีวิตพี่น้องชาวนาไทยจากเดิมที่เดือดร้อน ไม่มีกินมีใช้ มีหนี้สินล้นพ้นตัวอยู่แล้วให้ยากจนลงไปอีก
วันนี้รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาให้กับชาวนา มองไม่รอบด้าน และไม่ทันต่อสถานการณ์ มีแต่มาตรการเดิม ๆ จนทำให้วิกฤติราคาข้าวบานปลาย ดิฉันมีความเห็นว่า รัฐบาลควรจะหาแนวทางแก้ไขเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันทีค่ะ เช่น การออกมาตรการสนับสนุนต้นทุนการผลิต อย่างเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าเช่านา เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการเข้าไปดูแลด้านราคาให้กับชาวนา ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาการขนส่ง การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เพราะเมื่อส่งออกได้มากขึ้น ราคาข้าวก็จะสูงขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยชาวนาในทางอ้อม เพราะการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวคือการช่วยเศรษฐกิจไทยในภาพรวมทั้งประเทศค่ะ
ดิฉันเสียดายโอกาสในการปรับโครงสร้างเกษตรทั้งระบบที่ได้เริ่มวางรากฐานไว้เมื่อครั้งที่ดิฉันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่น การทำเกษตรโซนนิ่ง การลดการผลิตข้าวคุณภาพต่ำ และการปลูกพืชอื่น หลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว การพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มผลิตภาพของแรงงาน ไปจนถึงมาตรการลดต้นทุนโดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเกษตร การขยายตลาดใหม่ ๆ เพื่อสร้างโอกาส และมอบอนาคตที่ดีให้กับอาชีพชาวนา ให้สมกับคำว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ จะได้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งค่ะ”
นายก หารือ นายกออสเตรเลีย พร้อมทั้งชื่นชมในความช่วยเหลือด้านวัคซีนโควิด
นายก หารือร่วมกับ นายกออสเตรเลีย ถึงความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมถึงความช่วยเหลือในด้านวัคซีนโควิด-19 และสาธารณสุข พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (นายก) ได้ทำการหารือร่วมกับ นายกออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ถึงความร่วมมือกันของทั้ง 2 ประเทศ และสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมกันนี้ ได้กล่าวชื่นชมประเทศออสเตรเลียถึงความช่วยเหลือในด้านวัคซีนโควิด-19 และสาธารณสุขที่ให้แก่ประเทศไทย และอื่น ๆ
วันนี้ (18 สิงหาคม 2564) เวลา 10.00 น. ณ ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายสกอตต์ มอร์ริสัน (The Honourable Scott Morrison) นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย
ซึ่งฝ่ายออสเตรเลียเป็นฝ่ายทาบทามการหารือ ในโอกาสเพื่อรักษาและกระชับความสัมพันธ์ของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และเพื่อกระตุ้นแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในระดับทวิภาคี อนุภูมิภาคและภูมิภาค ภายหลังการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียอีกครั้ง ยินดีต่อการยกระดับสู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย-ออสเตรเลียซึ่งได้มีโอกาสลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนถึงความแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์ระหว่างกัน แม้จะพบกับสถานการณ์ความยากลำบากโรคโควิด – 19 ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นโอกาสวางรากฐานเพิ่มพูนความร่วมมือสู่อนาคตในสาขาต่างๆ ร่วมกัน
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวยินดีที่ได้มีโอกาสหารือกับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ โดยยืนยันว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการยกระดับความสัมพันธ์กับไทยภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ ตลอดจนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลีย สู่ความเป็นหุ้นส่วนแบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership) ท่ามกลางความท้าทายที่ทั่วโลกเผชิญ
ซึ่งรวมถึงประเด็นอื่นๆ ได้แก่ ความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โลกดิจิทัล สถานการณ์หลังโควิด-19 และ การเดินทางในยุค New Normal
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมออสเตรเลีย ที่ได้ประกาศให้ความช่วยเหลือเรื่องวัคซีนแก่นานาประเทศ ทั้งในกรอบ Regional Vaccine Access and Health Security Initiative กรอบ QUAD Vaccine Partnership กรอบการประชุมผู้นำ G7 ตลอดจนความร่วมมือในกรอบอาเซียน-ออสเตรเลีย
รวมถึง ขอบคุณการสนับสนุนเงินด้านสาธารณสุขจำนวน 2.8 ล้านดอลลาร์ ของออสเตรเลียให้แก่ไทย สะท้อนถึงบทบาทที่สร้างสรรค์ของออสเตรเลียในการส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ และได้ขอให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียพิจารณาให้ความร่วมมือด้านวัคซีนแก่ไทยในรูปแบบที่มีความพร้อมและเหมาะสม
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม